วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การเดินทาง

การเดินทาง

การเดินทางจากกรุงเทพฯ-ชัยภูมิ

- รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ผ่านรังสิตวังน้อย จนถึงสามแยกจังหวัดสระบุรี เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) แล้วแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 201 ที่อำเภอสีคิ้ว อำเภอด่านขุนทด เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิ รวมระยะทางประมาณ 342 กิโลเมตร

จากจังหวัดนครราชสีมา เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ-ขอนแก่น) ผ่านตำบลจอหอ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 205 ผ่านอำเภอโนนไทย ตรงไปจนถึงสี่แยกตำบลหนองบัวโคก อำเภอจัตุรัส เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 201 เข้าสู่จังหวัดชัยภูมิ รวมระยะทาง 119 กิโลเมตร

- รถโดยสาร บริษัทขนส่ง จำกัด เปิดบริการเดินรถ กรุงเทพฯ-ชัยภูมิ ทุกวัน ติดต่อขอรายละเอียดได้ที่ สถานีขนส่งสายตะวันออกเฉียงเหนือ ถนนกำแพงเพชร 2 โทร. 02-936-2852-66

การเดินทางจากตัวจังหวัดชัยภูมิ-มอหินขาว

- โดยรถยนต์ส่วนตัว ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2051 ถนนสายชัยภูมิ – ตาดโตน เป็นทางลาดยางระยะทาง ประมาณ18 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายก่อนถึงด่านของอุทยานแห่งชาติตาดโตน ตามถนนตาดโตน – ท่าหินโงม เป็นทาง ลาดยางประมาณ 12 กิโลเมตร แยกซ้ายตามถนนแจ้งเจริญ-โสกเชือก เป็นทางลูกรัง ระยะทาง 6.5 กิโลเมตรถึง บ้านวังคำแคนจากนั้นเลี้ยวขวาช่วงบ้านวังคำแคน ซึ่งเป็นทางลูกรังที่ชาวบ้านที่นี่ใช้เป็นเส้นทางสำหรับ ขนพืชไร่ ไปต่ออีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร  ในช่วงฤดูฝนควรใช้รถยนต์ประเภทรถกระบะหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อความเหมาะสมกับเส้นทาง

- โดยรถโดยสารประจำทาง ที่มอหินขาวไม่มีรถสาธารณะผ่าน นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาที่นี่ต้องเหมารถจากตัวเมืองชัยภูมิ หรือหากไปเที่ยว

การเดินทางจากตัวจังหวัดชัยภูมิ-น้ำตกตาดโตน

- โดยรถยนต์ส่วนตัว จากตัวจังหวัดชัยภูมิจะเดินทางไปทางทิศเหนือ ตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2051 เป็นทางลาดยางตลอดจนถึงน้ำตกตาดโตน ซึ่งมีที่ทำการอุทยานแห่งชาติอยู่ที่ บริเวณน้ำตกตาดโตนจะไปโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถจ้างเหมาจะสะดวกกว่า เพราะไม่มีรถโดยสารประจำทางโดยตรง แต่จะมีรถยนต์โดยสารไปถึงบ้านตาดโตน แล้วเดินเข้าไปน้ำตกตาดโตนอีกประมาณ 2 กิโลเมตร

การเดินทางจากตัวจังหวัดชัยภูมิ-ทุ่งดอกกระเจียว

- โดยรถยนต์ส่วนตัว ที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรทอง อยู่ห่างจากตัวจังหวัดชัยภูมิ ประมาณ 70 กิโลเมตร ห่างจากอำเภอหนอง บัวระเหว ประมาณ 37 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 225 สายชัยภูมิ – นครสวรรค์ จะมีทางแยก ขวามือเข้าไปน้ำตกไทรทองอีก 7 กิโลเมตร จากอุทยานแห่งชาติไทรทองต้องขับรถเข้าไปถึงจุดเริ่มเดินเท้า ซึ่งรถ ที่ขับเข้าไปได้ต้องเป็นรถกระบะเท่านั้น หากใครนำรถเก๋งเข้ามาก็จอดไว้ที่ทำการอุทยานแล้วติดต่อรถกระบะ ที่ทางอุทยานเตรียมไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวไปกลับ 550 บาท นั่งได้ 8-10 คน

แผนที่จาก Romeo Camping

 



ทุ่งดอกกระเจียว


ทุ่งดอกกระเจียว



ทุ่งดอกกระเจียว ป่าหินงาม ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ซึ่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอ เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ที่นี่นอกจะเป็นทุ่งดอกกระเจียวถือเป็นไฮไลต์ที่เด่นที่สุดของการมาท่องเที่ยวที่นี่การมาเที่ยวชมที่นี่ นักท่องเที่ยว จะได้สัมผัสกับทุ่งบัวสวรรค์หรือดอกกระเจียว ราชินีแห่งมวลไม้ดอกของขุนเขาป่าหินงาม ออกดอกสีชมพูอมม่วง ที่จะ ทยอยผลิบานเป็นระยะเวลา 2 เดือน ที่ออกปีละครั้ง ชูช่อล้อสายลมและสายหมอก ขึ้นเต็มทั่วผืนป่า 
ทุ่งดอกกระเจียว ถือเป็นไฮไลต์ท่องเที่ยวช่วงฤดูฝนแห้งแล้งจะกลับคืนสู่ความเขียวขจีและแต่งแต้มด้วยความ สดใส ของกระเจียวที่ผิดอกสีชมพูเต็มทุ่งหญ้ากว้าง ด้วยความงดงามตระการตาของดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มไป ทั่วผืนป่า ตัดกับพื้นสีเขียวขจีของหญ้าเพ็ก และโขดหินธรรมชาติ อีกทั้งรูปลักษณ์สวยงาม วิจิตรพิสดารทำให้เป็น ทุ่งดอกกระเจียวในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เป็นทุ่งดอกกระเจียวที่ใหญ่ที่สุด และงดงามที่สุดในประเทศไทย 
ดอกกระเจียวจะพากันบานอยู่
การเดินทางมาชมทุ่งดอกกระเจียวที่สวยงามที่สุด คือ ในช่วงเช้าที่มีสายหมอกบางๆ ปกคลุม แต่ถ้าหากมาในช่วง บ่ายที่ฝนเพิ่งตกใหม่ๆ ก็จะเจอบรรยากาศแบบนี้ได้เช่นกัน นอกจากนี้การเที่ยวชมเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ทุ่งดอกกระเจียว แล้ว ยังสามารถชมแหล่งท่องเที่ยวบริเวณข้างเคียงได้อีกด้วย เช่น ป่าหินงาม ซึ่งจะมีก้อนหินรูป ลักษณ์แปลกตา นรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลฟีฟ่า รูปดอกเห็ดเขาประตูชุมพล น้ำตกเทพประทาน
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
1.ลานหินงาม
เป็นที่มาของชื่อ ป่าหินงามมีสภาพเป็นลานหินกว้างครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ ล้อมรอบด้วยแนวป่าเต็งรัง บริเวณ ลานหินเต็มไปด้วยก้อนหินขนาดใหญ่รูปทรงแปลกตา เช่น รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วย รางวัล ฟุตบอลฟีฟ่า รูปดอกเห็ด;ฯลฯ ซึ่งกิดจากการกัดเซาะของลมและน้ำมานานนับล้านปี 
2.สุดแผ่นดิน
อยู่ห่างจากทุ่งดอกกระเจียวประมาณ 300 เมตร เป็นจุดสูงสุดของ อช. ป่าหินงาม และเป็นหน้าผาสูงสุดชายขอบ ด้านตะวันตกของที่ราบสูงโคราช มีความสูง 846 ม.ทางซ้ายมือเป็นที่ราบในเขต จ.พบุรี เบื้องหน้าเป็นทิวเขาและ ผืนป่า ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกาและทางขวามือเป็นพื้นที่ของ จ. เพชรบูรณ์ สิ่งที่ดูพิเศษสุดของจุดชมวิว แห่งนี้ี้คือ ลักษณะของผาหินที่ยื่นออกไปในอากาศคล้ายกับจุดชมวิวผาหำหด แต่มีขนาดใหญ่กว่าเมื่อขึ้น ไปยืน บนหน้าผาจะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้กว้างไกล
3.ชมทะเลหมอกสุดแผ่นดิน(ช่วงปลายฝนต้นหนาว)
จุดชมทิวทัศน์สุดแผ่นดินงดงามที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะมีสายหมอกปกคลุมผืนป่าเบื้องล่างเป็นบริเวณ กว้าง ทำให้ที่นี่เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามและอยู่ใกล้กรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่ง

น้ำตกตาดโตน



น้ำตกตาดโตน
น้ำตกตาดโตน อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดชัยภูมิ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติตาดโตนด้านบนเป็นลานหิน กว้างประมาณ 50 เมตร และยาวไปตามลำน้ำ ประมาณ 300 เมตร ทำให้ธารน้ำไหลผ่านมาตามลานหิน มีแอ่งน้ำเป็นจุดๆ เหมาะแก่การเล่นน้ำ พักผ่อนชมธรรมชาติ น้ำหลากตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูฝนจะสวยงามเป็นพิเศษ ( ประมาณเดือนมิถุนายน – กันยายน ) ค่าธรรมเนียมเข้าชม คนละ 20 บาท รถยนต์ 30 บาท


ผาเกิ้ง



 ผาเกิ้ง เป็นส่วนหนึ่งของภูแลนคา หากเดินทางมาตามเส้นทางชัยภูมิ-หนองบัวแดง จะเห็นหน้าผาสูงริมทางคล้ายพระจันทร์เสี้ยวยื่นออกมา ชาวบ้านจึงเรียกว่า ผาเกิ้ง ซึ่งหมายถึงพระจันทร์ในภาษาอีสาน บนเขามีวัดผาเกิ้งหรือวัดชัยภูมิพิทักษ์ตั้งอยู่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปชัยภูมิพิทักษ์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่สูง 14 เมตร ด้านหน้าองค์พระเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมองเห็นทัศนียภาพของทุ่งนาได้กว้างไกล ผาเกิ้งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 36 กิโลเมตรบนหลวงหมายเลข 2159 (ชัยภูมิ-หนองบัวแดง)


ผาหำหด


ผาหำหด
คือ สถานที่ทดสอบความเสียวเบื้องล่างของบุรุษเพศ และเป็นชื่อจุดชมวิวที่สวยงามของ จังหวัดชัยภูมิ

ด้วยลักษณะทางกายภาพเป็นชะง่อนผา คล้ายกับแผ่นกระดาน ขนาดกว้างไม่เกินเมตรคูณเมตร ยื่นออไปกลางอากาศ ไม่มีอะไรรองรับเบื้องล่างที่ความสูง 864 เมตรระดับน้ำทะเล เสียวจนมีคนกล่าวว่า
“เสียวจน หำหด หมดแล้ว”

มอหินขาว

มอหินขาว ธรรมชาติสร้างสรรค์สิ่งมหัศจรรย์ให้กับมนุษย์เราได้เสมอ อีกหนึ่งมหัศจรรย์ในเมืองไทย ที่อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัสที่ มอหินขาว กับความงดงามแปลกตาของเสาหินและแท่งหินที่ถูกสร้างสรรค์โดยธรรมชาติ  ฉันเคยมาเที่ยว มอหินขาว ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว ในเวลา ที่แห่งนี้ยังไม่มีใครรู้จักถนนหนทางเป็นดินแดงลูกรัง เดินทางลำบากพอสมควร ในตอนนั้นมาในตอนบ่าย ฟ้าค่อนข้างครึ้มพอสมควร แต่ถึงอย่างไรมอหินขาวกับการมาเยือนครั้งแรก ภาพวิวสวยระหว่างทาง ดอกหญ้าพริ้วไหวในช่วงฤดูฝนบานสะพรั่งเต็มลานหิน  คอยย้ำเตือนอยู่เสมอว่า ซักวันหนึ่งฉันจะหาโอกาสกลับมาที่นี่อีกครั้ง

มอหินขาว





และแล้วโอกาสก็มาถึง มอหินขาว ถูกใส่เป็นโปรแกรมอันดับแรกในทริปเยือนทุ่งดอกกระเจียวไทรทอง ซึ่งกำลังบานสะพรั่งอยู่ในขณะนี้   ยังไม่รุ่งสางฉันนัดแนะกับพี่ดาวคนขับรถซึ่งเคยใช้บริการเมื่อครั้งก่อน หลายปีแล้วพี่ดาวยังจำฉันได้ตอนโทรไป ถามว่าใช้หนูที่เคยมามอหินขาวเมื่อหลายปีก่อนใช่มั้ย โอ้โห ลุยน่าดูเลย ฉันหัวเราะ  ตอนนั้นฉันและเพื่อนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มเดียวที่อยากไปมอหินขาวมากทั้งๆที่ในเวลานั้นยังไม่มีใครรู้จักเลยด้วยซ้ำไปหลังจากเที่ยวทุ่งดอกกระเจียวก็ลงทุนเหมารถพี่แก้วไปที่นั้น  แกบอกว่าเป็นคนแรกและคนเดียวที่ทำแบบนี้เลยจำได้จนทุกวันนี้   เวลาตี 3 ตามเวลานัดหมายพี่ดาวมารับที่ท่ารถเพื่อมุ่งหน้าไปมอหินขาวให้ทันเวลา 6 โมงเช้า ความตั้งใจ คือ เก็บความสวยงามของสายหมอกในยามเช้า  ฉันมาถึงมอหินขาวตั้งแต่ตี 5  จอดรถรอตรงบริเวณกลุ่มหินโขลงช้าง  ณ ช่วงเวลานั้นยังมืดสนิทมองอะไรแทบไม่เห็น  มีแต่เพียงไฟหน้ารถส่องนำทาง  ลมที่มอหินขาวพัดแรงมากทำเอาหนาวขนลุกเลยทีเดียว อุปกรณ์กันหนาวก็ไม่ได้เตรียมมาทั้งสิ้น  เดินดุ่มพยายามมองมุมไปเรื่อยเพื่อหาสายหมอก แต่ไม่เห็นเลยแม้แต่นิดเดียวแอบผิดหวังเล็กน้อย แต่แล้วแสงอาทิตย์ในเวลาเช้าและสีสันของท้องฟ้าก็ค่อยปรากฎให้เราเห็น




มอหินขาว

ใครจะนึกว่ามาเที่ยวหน้าฝน จะมีโอกาสได้เจอพระอาทิตย์ขึ้นและแสงสวยแบบนี้  ตั้งใจมาที่นี่ตอนเข้าเพื่อมาเก็บหมอกแห่งสายฝนตามภาพถ่ายที่เห็นเค้าถ่ายกันมา เป็นภาพหมอกไหลคลอเคลียไปตามไหล่เขา  แต่กลับได้เจอกับลำแสงสวยส่องกระทบหิน ในวินาทีนั้นรู้สึกว่าภาพมอหินขาวที่เห็นอยู่ตรงหน้าเป็นภาพที่ไม่เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน เพราะโดยปกติจะเห็นแต่ภาพแสงเย็นและภาพดวงดาวในยามค่ำ  ฉันตื่นเต้นไม่รู้จะเริ่มถ่ายภาพจากตรงไหนดี เพราะสวยงามแทบทุกมุม

มอหินขาว
แสงยามเช้าส่องกระทบกับยอดหญ้า  ท้องฟ้าใสสีฟ้าเริ่มปรากฎให้เห็น หันไปมองนาฬิกา เป็นเวลา 6.30 น. ยังเช้าอยู่มาก แต่ท้องฟ้ากลับสว่างเหมือนเวลา 7 โมงกว่า
มอหินขาว



ฉันยังคงยืนอยู่ในมุมเดิม พระอาทิตย์เริ่มคล้อยตัวสูงขึ้นแสงอาทิตย์กระทบกับก้อนหินสีน้ำตาล เพิ่มมิติและเงาให้ก้อนหินดูน่ามองยิ่งขึ้น



มอหินขาว

มองไปที่ท้องฟ้าเห็นวิวทิวเขาที่อยู่ไกล ๆ  ริ้วลายของเมฆ และแสงสีทองของพระอาทิตย์ ผสานกันได้อย่างลงตัว
มอหินขาว


หากเรามาเที่ยวมอหินขาวในหน้าฝนก็จะได้พบเห็นต้นหญ้าสีเขียว ดอกไม้ป่าเล็กสีม่วง และดอกหญ้าสีชมพู พริ้วไหว แต่ถ้ามาในหน้าหนาวก็จะไม่ได้เจอธรรมชาติเหล่านี้ พื้นหญ้าจะกลายเป็นหญ้าแห้งสีเหลืองไปตามระเบียบ สำหรับฉันรู้สึกว่าหน้าฝนเป็นช่วงเวลาที่มอหินขาว สวยและสดชื่นทีุ่สุดและจะสวยยิ่งขึ้นหากเราโชคดีได้มาเจออากาศดี